[รีวีวหนัง]The Big Short เกมฉวยโอกาสโกง

The Big Short

(เกมฉวยโอกาสรวย)

เรื่องย่อ : เรื่องราวเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นจากการปล่อยสินเชื่อบ้าน แบบไม่มีเงื่อนไข และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา เมื่อ ดร.ไมเคิล เบอร์รี่ อัจริยะด้านเศรษฐกิจ พบเห็นปัญหาเล็กๆของการจ่ายผ่อนงวดบ้าน และคาดการว่าต่อไปจะเกิดฟองสบู่และมีเรื่องราวร้ายแรงต่อมา เขาจึงเลือกที่จะลงทุนหรือเรียกง่ายๆว่า พนัน กับเหล่าธนาคารว่า หากคุณเป็นไปตามที่คาดการเอาไว้ คุณต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินมูลค่าหลายพันล้านให้ ในขณะเดียวกันหากทฤษณีของ ดร.ไมเคิล ผิด เขาจะต้องจ่ายค่าประกันชีวิต(ใครอยากรู้ว่าทำไมต้องจ่ายต้องตามไปดู!) ตลอดชีวิต เขาพนันเป็นคนแรกท่างกลางเสียงคัดค้านจากคนรอบข้างและธนาคาร ที่เชื่อมันว่า สินเชื่อบ้านไม่มีวันล้ม
        ต่อมา จาเร็ต แวนเนตต์ ได้ยินข่าววิเคราะห์ของ ดร.ไมเคิลเข้า จึงตรวจสอบพบว่าเป็นจริง และเที่ยวบอกใครต่อใคร ก็ไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายเลขาของจาเร็ตโทรไปผิดชั้น ทำให้ได้เจอกับ มาร์ค บาร์ม ที่ทำงานด้านเดียวกัน และกล่อมเกลี้ยวให้ลงพนันในด้านนี้ โดน จาเร็ต เองจะได้ครึ่งนึงจากกำไร ตอนแรกมาร์ค บาร์ม ก็ไม่เชื่อ สุดท้ายเมื่อลองตรวจสอบลงพื้นจริงก็พบว่าเป็นจริงอย่างที่ จาเร็ต บอก
      ต่อมา เจมี่ ชีปลีย์ และ  ชาร์ลี เกลเลอร์ เป็นคู่หู่ที่อยากรวยล้นฟ้าและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งภายในเวลาไม่กี่ปี ทั้งคู่บังเอิญได้รับข้อมูลมาจากที่ต่างกัน และอยากที่ลองลงพนัน แต่มีประสบการณ์น้อย จึงให้ บิล ริคเก็ท อดีตนายแบงค์ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด  ช่วยเหลือในการลงพนันครั้งนี้ ใครจะเป็นฝ่ายสูญเสีย ระหว่าง นักลงทุนที่สืบหาความจริง หรือ บรรดาธนาคารที่เชื่อมั่นในระบบ?

ความคุ้มค่าของหนังกับเวลาที่หายไป : จากความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ดู ถือว่าสนุกมากถ้าไม่ศัพท์การเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่..คุณไม่ต้องกังวลว่าดูไปแล้วจะไม่สนุก เขาจะมีฉากที่แยกออกมาอธิบายถึงศัพท์เฉพาะในภาษาทั่วๆไป โดยจะมีซุป'ตาร์ดังๆ เช่น เซเรน่า โกเมซ งี้ มาแจมด้วย แล้วอธิบายให้มันดูเป็นภาษาคนขึ้น แต่ในหนังเนี้ย จะมีการตัดสลับไปมา ถือเป็นการตัดต่อที่ดูแล้วลงตัว ไม่มึนงง มองออกว่าเป็นตอนของใคร แล้วเขาทำอะไร อยู่ในเวลาไหน ทำไมต้องทำอย่างนั้น ถือว่าต้องใช่สมองในการวิเคราะห์อย่างมากทีเดียว หากคุณตั้งใจดูจริงๆ คุณจะเข้าถึงวงแวดการลงทุน และหลงใหลมากขึ้นด้วย เอ็มเองตอนแรกก็ไม่รู้เรื่อง มองว่าการลงทุนถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่น่าทำ แต่ถ้าดูหนังตัวนี้ความคิดของคุณจะเปลี่ยนแปลงไป และมองเห็นอะไรที่กว้างและใหม่ขึ้น น่าท้าทายขึ้น เสมือนว่าตอนจบเป็นสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกที่จะทำอย่างที่ต้องการ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมที่จะสูญเสียอะไรบางอย่างไปและรับมาเป็นบทเรียน

โดยตัวละครหลักๆ จะมี 6 คน

1.ดร.ไมเคิล เบอร์รี่
        เป็นคนที่มีฝีมือหรือแววตาที่เฉียบคมในการมองเห็นก่อนคนอื่นๆในด้านการลงทุนหรือเป็นคนที่มีพรสวรรค์นั้นเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงและก่อนที่จะมั่นใจอะไร จะตรวจสอบหลายๆรอบก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์แย่ เข้ากับคนอื่นไม่ได้ พูดตรง อารฒณืเสียง่าย แต่ชอบฟังเพลงร็อค โดยตัวละครนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำคนอื่นๆ เข้ามาร่วมลงพนันกันมากขึ้นๆ

2.จาเร้ต เวนเนตต์ 
            เป็นคนที่กระหายเงิน แม้ว่าจะทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในแบงค์ใหญ่ก็ตาม เป็นคนที่ 2 ทีี่ร่วมลงพนันแต่ ไม่ได้เป็นคนที่ลงพนันเอง โดยชักชวนคนอื่นที่ทำงานด้านการเงินลงให้ แต่ตัวเองจะได้รับค่าตอบแทนที่สูง ถือเป็นคนที่มีเลห์เหลี่ยม มั่นใจในตัวเอง ไม่แคร์ใคร โดยลงพนันด้วยมือคนอื่น แต่เป็นคนที่ 2 ที่เอะใจและตรวจสอบจนแน่ชัด  เพราะได้เห็นบทวิจาร์ณของ ดร.ไมเคิล เบอร์รี่

3.มาร์ค บาร์ม (คนที่ยกมืออยู่อ่ะนั้นๆ)
            เป็นคนที่โมโหง่าย ทำงานด้านการเงินในบริษัทระดับกลางแห่งนี้ ได้ร่วมลงพนันโดยบังเอิญโดยคำชักชวนของคนที่โทรมาผิดชั้น! แต่ก็ไม่ได้เชื่อง่ายๆ เป็นคนที่ไม่เชื่อมั่นในระบบ 100% ต้องลงมือตรวจสอบจากพื้นที่จริง ถึงจะเชื่อ แต่หลังสงครามการพนันนี้จบลง เขาได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง

4.บิล ริทเก็ต
             เป็นอดีตนายแบงค์ในธนาคาร์ใหญ่ที่เลือกจะออกจากวงการเงินเพราะรู้สึกอิ่มกับหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไปใช้ชีวิตแบบสงบสุขที่ชนบท แต่มิวายโดน 2 คู่หู่มาขอคำแนะนำหรือขอให้ช่วยอยู่บ่อยๆ เป็นคนที่ระวังตัวมาก มีมือถือหลายเครื่อง โทรปุบ พูดได้ไม่กี่คำ วางปับ (ต้องดู!) ไม่เต็มใจที่ลงพนันครั้งนี้ เป็นเป็นคนที่ช่วงลงมือปฎิบัติและติดต่อกับแบงค์ใหญ่ๆให้

5.เจมี่ ชิปลีย์ & ชาร์ลี เกลเลอร์
            ทั้ง 2 คนมีลักษณะนิสัยที่คล้ายๆกัน ไม่งั้นคงไม่ได้มาเป็นคู่หู่กันหรอก ทั้งคู่มีความฝันที่เหมือนกันคือ อยากรวยล้นฟ้าและประสบความสพเร็จเหมือน  บิล ริทเก็ต ที่พวกเขาชอบไปรบกวนอยู่บ่อยๆ ทั้งคู่ได้ลงพนัน จากการบังเอิญที่ได้ยินจากเพื่อนและอีกหนึ่งได้อ่านเจอในนิตยสารการเงิน ทั้งคู้จึงลองที่จะลงเสี่ยงพนันดูชักตั้งและร้องขอความช่วยเหลือคนที่มากประสบการณ์!

สุดท้าย สงครามครั้งนี้ใครจะอยู่ใครจะไป? แต่คนที่ได้รับผลกระทบแน่ๆคือ ประชาชน แต่จะดีหรือร้ายนั้นขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่เลือกจะเปิดเผยความจริงและแก้ไขหรือปกปิดความเน่าเฟอะและหลอกประชาชนต่อไป? (วิกฤตนี้เกิดขึ้นจริงในประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกว่า วิกตฤแฮมเบอร์เกอร์ เพราะดูเป็นอาหารที่ดูดี อร่อยและรวดเร็ว)

ในขณะเดียวกันประเทศไทยก็กำลังที่จะฟื้นฟูทุกๆสถาบัน และยกระดับคนที่มีฐานะยากจนขึ้น พร้อมออกมาตราการกู้บ้านสำหรับผู้ที่รายได้น้อย ซึ่งเคยล้มเหลวในนโยบายที่รู้จักกันดีว่า นโยบาย "ซื้อบ้านหนังแรก" และตอนนี้รัฐก็เริ่มปล่อยมาตราการคล้ายๆกันนี้ ซึ่งผลลัพท์นี้จะเป็นอย่างไร? จะมีจุดจบที่เหมือนในภาพยนต์นี้หรือไม่อย่างไร ต้องติดตาม!